รูเบน อโมริม บอสใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ว่า การเพรสซิ่ง, ความแข็งแกร่งของร่างกาย, และความเข้าใจเกม คือ 3 สิ่งที่ลูกทีมของเขาพัฒนาขึ้นนับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีม
อโมริม เข้ามารับไม้ต่อจาก เอริค เทน ฮาก ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทฤดูกาลได้แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยกุนซือชาวดัตช์ถูกไล่ออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเพียงสองปีเศษ
โค้ชชาวโปรตุเกสย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงทีมและรูปแบบการเล่นเพื่อให้ทีมมีเอกลักษณ์ แม้ว่าจะมีสัญญาณเชิงบวกบางอย่าง แต่ผลงานในการเริ่มต้นของเขายังคงไม่เด่นชัดนักจากผลงานชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ 3 นัดในช่วงออกสตาร์ท
ฟอร์มการเล่นที่ไม่สู้ดีของทีมยังคงดำเนินต่อไปในคืนวันพฤหัสบดี โดยพ่ายแพ้ต่อ ท็อตแนม 4-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ
แต่ อโมริม ชี้ว่าฟอร์มการเล่นในตอนนี้ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีพัฒนาขึ้นในพื้นที่สุดท้าย นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่าเขาเห็นสัญญาณของความแข็งแกร่งทางร่างกายของลูกทีม และการรับรู้แทคติคที่ดีขึ้น
“ผมคิดว่าเราพัฒนาขึ้นในการเล่นในกรอบเขตโทษของคู่ต่อสู้” เขากล่าวก่อนเกมเหย้ากับ บอร์นมัธ ในวันอาทิตย์ ที่ได้จัดให้สัมภาษณ์ทันทีหลังจบเกมกับ ท็อตแนม
“เรามีเกมบางเกมที่เราอยู่พาบอลเข้าในกรอบเขตโทษได้ แต่ไม่ได้สร้างภัยคุกคามมากนัก แต่คุณมองเห็นได้ถึงสิ่งที่ที่แตกต่างออกไป (ในกับท็อตแนม)”
“คุณจะเห็นว่าเรามีโอกาสทำประตู เราใกล้เคียงที่จะได้ประตูและคุณรู้สึกถึงมันได้ คุณรู้สึกได้จริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นในทีมของเรา”
“ผมรู้สึกว่าทีมของเราเพรสซิ่งได้ดุดันขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และเข้าใจเกมมากขึ้น คุณสามารถเห็นมันได้จากการคอนโทรลเกม และคุณจะเห็นมันมากขึ้นโดยเฉพาะในเกมนี้ แต่ในเกมล่าสุด เราเข้าใจตำแหน่งและการเคลื่อนที่ได้ดีแล้ว แต่ที่ควรทำมากขึ้นด้วย”
“มีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องปรับปรุง แต่การคิดถึงเรื่องดีๆ ในเกมนี้อาจเป็นเรื่องยาก เพราะเราตกรอบไปแล้ว และเรามาโฟกัสกับเกมนัดต่อไปกันดีกว่า”
